
พอล โกแกง
เออแฌน อองรี พอล โกแกง หรือ พอล โกแกง (ภาษาอังกฤษ: Paul Gauguin หรือ Eugène Henri Paul Gauguin) (7 มิถุนายน ค.ศ. 1848 - 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1903) เป็นจิตรกรสมัยอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลังชาวฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ผู้มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนภาพเขียนสีน้ำมัน
โกแกงเกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1848 ที่ปารีสในประเทศฝรั่งเศส และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1903 ที่เกาะในโพลินีเซียฝรั่งเศส นอกจากการเป็นจิตรกรสมัยอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลังแล้วโกแกงยังทดลองการเขียนที่ใช้สีฉูดฉาดที่นำไปสู่การเขียนแบบสังเคราะห์นิยม (Synthetist) ของศิลปะสมัยใหม่ การเขียนของโกแกงเป็นวิธีที่มีอิทธิพลมาจากลัทธิคลัวซอนนิสม์ที่นำไปสู่งานเขียนที่เป็นแบบที่เรียกว่าบรรพกาลนิยม (Primitivism) และกลับไปสู่จิตรกรรมท้องทุ่ง (pastoral) นอกจากนั้นโกแกงก็ยังมีอิทธิพลต่อภาพพิมพ์ลายแกะ (engraving) และ ภาพพิมพ์แกะไม้ที่ยกระดับขึ้นเป็นงานศิลปะ
วันเกิด 7 มิถุนายน ค.ศ. 1848
ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
วันเสียชีวิต 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1903
เกาะในโพลินีเซียฝรั่งเศส
เชื้อชาติ ฝรั่งเศส
สาขา จิตรกร
ประเภทงาน ภาพเขียนสีน้ำมัน
ยุค อิมเพรสชันนิสม์สมัยหลัง

ชื่อภาพ“พระเยซูเหลือง” พอล โกแกง สร้างขึ้นเมื่อค.ศ. 1889
จิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบ 91.1 × 73.4 cm หอศิลป์อัลไบรท์น็อกซ์
พระเยซูเหลือง (ภาษาฝรั่งเศส: Le Christ jaune; ภาษาอังกฤษ: The Yellow Christ) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยพอล โกแกงจิตรกรสมัยอิมเพรสชันนิสม์สมัยหลังชาวฝรั่งเศส ที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่หอศิลป์อัลไบรท์น็อกซ์
พอล โกแกงเขียนภาพ “พระเยซูเหลือง” ระหว่างฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 1889 พร้อมกับภาพ “พระเยซูเขียว” ที่ปองต์อาแวง ซึ่งถือกันว่าเป็นงานสำคัญของการเขียนของลัทธิคลัวซอนนิสม์
โกแก็งไปเที่ยวปองต์อาแวงครั้งแรกในปี ค.ศ. 1886 และกลับมาอีกครั้งในปี ค.ศ. 1888 และพักอยู่จนเดือนตุลาคมเมื่อกลับไปพบกับฟินเซนต์ ฟาน ก็อกฮ์ ที่อาร์ลเป็นเวลาเพียงสองเดือน เมื่อต้นปี ค.ศ. 1889 โกแก็งก็กลับไปปองต์อาแวงอีกครั้งและพักอยู่ที่นั่นจนฤดูใบไม่ผลิปีต่อมา ระหว่างนั้นโกแก็งก็เขียนภาพ “พระเยซูเหลือง”
“พระเยซูเหลือง” เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ทางเหนือของฝรั่งเศสเมื่อสตรีเบรตองมาพบและสวดมนต์ด้วยกัน ความศรัทธาร่วมกันทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบนกางเขน โกแกงตัดเส้นหนักบนร่างของพระเยซูและไม่ใช้แสงเงามากเท่าบนตัวผู้หญิงที่ล้อมรอบอยู่ข้างล่างภาพ สีเหลือง, แดง และเขียวของภูมิทัศน์ทำให้สีเหลืองของพระเยซูยิ่งเด่นขึ้น การใช้ขอบคันที่หนักและเน้นความแบนราบเป็นลักษณะการเขียนของลัทธิคลัวซอนนิสม์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เพิ่มเติมจาก(ครูแผน ) http://www.oknation.net/blog/phaen/2007/05/13/entry-1

พอล โกแกง... ศิลปินหัวขบถขนานแท้!
๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๖ พอล โกแกง (Paul Gauguin) เสียชีวิต
โกแกง เป็นศิลปินคนสำคัญของฝรั่งเศสในกลุ่ม โพสต์-อิมเพรสชั่นนิสม์ (Post-Impressionism) เกิดเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๓๙๑ ที่กรุงปารีส ตอนอายุ ๓ ขวบครอบครัวต้องลี้ภัยการเมืองไปอยู่ที่ประเทศเปรู แต่พ่อของเขาเสียชีวิตระหว่างทาง เขากับพี่สาวและแม่ได้อาศัยอยู่กับลุงที่เมืองลิมา (Lima) ซึ่งเมืองนี้ได้สร้างภาพประทับใจให้เขาได้แสดงออกในผลงานศิลปะในเวลาต่อมา
ตอนอายุ ๗ ขวบโกแกงและครอบครัวย้ายกลับไปฝรั่งเศสอีกครั้ง เมื่อมีอายุได้ ๑๗ ปีเขาเข้าทำงานเป็นลูกเรือในเรือเดินสมุทร และเข้ารับราชการทหารกับราชนาวีฝรั่งเศส จากนั้นก็เล่นหุ้น แต่งงานและมีลูก ๕ คน นับว่าเป็นครอบครัวที่มีความสุขเขาใช้เวลาว่างในการเขียนรูป และสะสมผลงานศิลปะ
จนกระทั่งได้รู้จักกับ กามิล ปิซาโร (Camille Pssarro) ศิลปินอิมเพรสชั่นนิสม์ขาวฝรั่งเศส ได้แนะนำเขาให้รู้จักกับศิลปินคนอื่นๆ และบอกให้เขาเขียนรูปของตัวเองต่อไป โกแกงจึงเช่าสตูดิโอและเขียนรูปอิมเพรสชั่นนิสม์อยู่ระหว่างปี ๒๔๒๔ - ๒๔๒๕
อีกสองปีต่อมาเขาพาครอบครัวย้ายไปอยู่ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก แล้ววันหนึ่งเขาก็ตัดสินใจละทิ้งการงานที่มั่นคง ชีวิตที่สะดวกสะบายและครอบครัวเพื่อออกมาเขียนรูปอย่างจริงจัง เขาออกไปเขียนรูปกับปิซาโร เซซาน (Paul Czanne) และแวนโก๊ะห์ (Vincent van Gogh) ในปี ๒๔๓๒ โกแกงได้แสดงงานศิลปะที่ปารีสและเริ่มมีชื่อเสียง
ในระยะนั้นศิลปะตะวันออกและแอฟริกา เริ่มเข้ามาเผยแพร่ในตะวันตก โดยเฉพาะงานพื้นบ้าน (folk art) และภาพพิมพ์ญี่ปุ่น โกแกงมีความสนใจงานศิลปะพื้นบ้านอยู่แล้วจึงตัดสินใจไปใช้ชีวิตเขียนรูปที่เกาะตาฮิติ (Tahiti) ที่นี่เองเขาได้เกิดแรงบันดาลใจ พัฒนาฝีมือสร้างสรรค์งานศิลปะออกมาให้โลกชื่นชมเป็นจำนวนมาก
ภายหลังเขาได้ไปใช้ชีวิตที่เกาะมาร์เควซาส์ (Marquesas) ในบั้นปลายชีวิตเขาตาบอด ป่วยด้วยโรคซิฟิลิส และเสียชีวิตที่นี่ ก่อนจะถูกนำศพไปฝังที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะตาฮิติ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขารักมากที่สุด
ภาพวาดของโกแกงหลังจากที่เป็นชาวเกาะ มักเต็มไปด้วยสีสันสดจัด รูปทรงเรียบง่าย บิดเบี้ยว แบนเพราะไม่มีเงา แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวและวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวเกาะ ต่อมาเรียกสไตล์ศิลปะแบบนี้ว่า Synthetism เขาเชื่อว่าศิลปินสามารถสร้างงานที่ดีได้หากได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ โกแกงนับเป็นศิลปินหัวขบถขนานแท้ที่กล้าละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทำงานศิลปะที่ตนรัก โกแกงเป็นศิลปินในกลุ่มโพสต์-อิมเพรสชั่นนิสม์ ร่วมกับเซซาน และ ฟาน ก็อกห์ ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อพัฒนาการศิลปะสมัยใหม่ (Modern Art)